การศึกษาไทยยุค 4.0
การศึกษาไทยยุค 4.0
“ห้องเรียนที่ดีต้องปฏิสัมพันธ์กัน”
จากการที่เทคโนโลยี
และข้อมูลข่าวสารในโลกยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง
จึงทำให้เกิดการผลิตสินค้า และบริการใหม่ ๆ
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ขณะที่ประเทศไทยมีการกำหนดนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ในการคิดค้น และพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
เพื่อให้ไทยหลุดจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง จึงทำให้ภาครัฐ และภาคเอกชน
ต่างปรับตัวให้สอดรับกับพลวัต และนโยบายที่เกิดขึ้น
ทั้งนั้น
การจะนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ สิ่งสำคัญคือต้องเร่งการพัฒนา
และเตรียมความพร้อมให้กับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยาการคอมพิวเตอร์
การเขียนโปรแกรม การเขียนโค้ด การวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ หรือสะเต็มศึกษา (STEM
education) เป็นต้น เพื่อให้ประเทศมีทรัพยากรมุนษย์ที่มีทักษะ
มีประสิทธิภาพสูง พร้อมจะพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ในการรองรับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นต่อไป
“อักษร เอ็ดดูเคชั่น”
ผู้พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา และออกแบบกระบวนการเรียนการสอนครบวงจร โดย “ตะวัน
เทวอักษร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
จึงเปิดเผยถึงเทรนด์การศึกษาไทยในยุค 4.0
และแนวคิดห้องเรียนที่ดีในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า
พร้อมทั้งการเตรียมการจัดงานสัมมนาวิชาการประจำปี “Aksorn Teaching Forum
2018” ภายใต้แนวคิด “อนาคตเด็กไทยสร้างได้
ด้วยผู้บริหารและครูมืออาชีพ”
เบื้องต้น “ตะวัน” กล่าวว่า เนื่องจากเทคโนโลยี
ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
จึงทำให้การเรียนรู้ในปัจจุบันจำเป็นต้องสร้างพื้นฐานทักษะความรู้
ความเข้าใจในมิติใหม่ ๆ ให้กับเด็กไทย โดยเฉพาะทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การมีทักษะในการสื่อสารที่ดี
การทำงานร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนการคิด การสร้างสรรค์
เพื่อทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ
“ถ้าหากย้อนดูกระแสที่ว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่แรงงาน
หรือการทำงานของมนุษย์นั้น
ผมเชื่อว่าถ้าหากเด็กรุ่นใหม่มีทักษะมีความสามารถที่กล่าวมาข้างต้น
หุ่นยนต์จะไม่สามารถทำงานแทนได้ แม้ว่างานบางอย่างหุ่นยนต์จะสามารถทำได้แม่นยำ
และมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ แต่งานที่จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
การคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ อาจจะยังแทนที่ไม่ได้ ฉะนั้น
ตรงนี้จึงเป็นโจทย์สำคัญของระบบการศึกษาไทย
ในการพัฒนาคนให้มีทักษะการเรียนรู้สมัยใหม่ โดยเฉพาะในโรงเรียน ในห้องเรียน”
“การจะทำให้ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เกิดขึ้นจริงนั้น ผมมองว่าห้องเรียนที่ดีต้องมีการปฏิสัมพันธ์
พูดคุยกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากในโลกการทำงานจริง เราจำเป็นต้องอาศัยการพูดคุย
การระดมสมองอยู่ตลอดเวลา เพื่อคิดค้น หรือพัฒนาสินค้าบริการใหม่
ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะจะว่าไป ทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ทำให้รูปแบบการสอนของครูเปลี่ยนไป
จากห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่มีคุณครูยืนสอนอยู่หน้าชั้น
เด็กนักเรียนนั่งเป็นแถวคอยจดบันทึก
มาเป็นรูปแบบของกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งสร้างปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียนระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน”
“เราเชื่อว่าคุณภาพของผู้เรียนเกิดขึ้นจากกระบวนการเรียนการสอนที่ดี
ครูผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
และการมีเนื้อหา
และสื่อการเรียนรู้ที่ดีที่จะช่วยเสริมให้ผู้เรียนมีความพร้อมสำหรับโลกยุคใหม่
กระทั่งต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต”
“ตะวัน” กล่าวเพิ่มเติมว่า หากยกตัวอย่างกระบวนการสอนที่ดี
สิ่งสำคัญคือครูต้องเป็นผู้ชวน หรือเปิดประเด็นให้นักเรียนได้ร่วมกันระดมสมอง
ช่วยกันค้นคว้า แลกเปลี่ยน เพื่อคิดแก้ไขปัญหาหรือโจทย์ที่ครูตั้งขึ้น
และครูเองต้องเป็นผู้ให้คำแนะนำ คำชี้แนะต่าง ๆ จนได้ผลการศึกษา ผลการทดลอง
เพื่อนักเรียนจะได้มานำเสนอให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนฟัง
“ตรงนี้ทำให้เห็นว่าห้องเรียนจึงไม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ
เพียงแต่ต้องมีกระบวนการเรียนรู้ที่สร้างทักษะใหม่ ๆ โดยครูต้องตั้งคำถาม
ถามให้เยอะขึ้น และนักเรียนพูดคุย เสนอแนะให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ให้มากขึ้น
ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือทำให้เด็กเกิดทักษะสมัยใหม่ระหว่างการเรียน”
“ด้วยวิธีการแบบนี้
ผมเชื่อจะทำให้ห้องเรียนสมัยใหม่เกิดขึ้นจริงในทุกโรงเรียนทั่วประเทศไทย
แม้ในโรงเรียนที่ขาดแคลนเรื่องของทรัพยากร การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ตรงนี้อาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
ซึ่งจากประเทศที่ติดอันดับด้านคุณภาพการศึกษาระดับโลกนั้น
ตัวเลขการเข้าถึงเทคโนโลยีไม่ได้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้นหรือแย่ลงเลย
ฉะนั้น การเข้าถึงเทคโนโลยีอาจเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่ง
เพราะส่วนสำคัญคือเรื่องการออกแบบกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนมากกว่า”
ถึงตรงนี้ “ตะวัน” บอกว่า เพื่อให้ครู
ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบกระบวนการเรียนการสอน
สามารถทำให้ห้องเรียนที่ดีเกิดขึ้นได้จริงในโรงเรียน อักษร เอ็ดดูเคชั่น
จึงจัดให้มีการอบรมสัมมนาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับครูผู้สอน
เพื่อนำประสบการณ์ รูปแบบการสอนที่ดีส่งต่อไปยังนักเรียนได้อย่างมั่นใจ
“และช่วงปลายปีนี้เรายังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ
จัดโครงการสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการองค์ความรู้
และการจัดการเรียนการสอนเชิงรุกสำหรับผู้เรียนศตวรรษที่ 21
หรือ “Aksorn Teaching Forum 2018” ภายใต้แนวคิด
“อนาคตเด็กไทยสร้างได้ ด้วยผู้บริหารและครูมืออาชีพ” ที่มีจะมีนักคิด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาระดับโลกและไทยมาร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยอย่างทั่วถึง ซึ่งจะแบ่งเป็นโครงการสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบัติ
6 โครงการ”
“ไฮไลต์ของการจัดงานในปีนี้ คือ
โครงการสัมมนาผู้นำทางการศึกษาแห่งประเทศไทย 2561 (Thailand”s Education
Leader Symposium หรือ TELS 2018) ภายใต้แนวคิด
“เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน แนวโน้มคุณภาพการศึกษาสำหรับทุกคน”
ที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะได้พบกับนักคิดทางการศึกษาระดับโลกอย่างหลากหลายท่าน
ทั้งผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและทักษะ
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาเด็กสถาบันการศึกษาแห่งชาติ
สถาบันครูแห่งเดียวในสิงคโปร์ เป็นต้น”
“เพราะผมฝันว่าอยากจะสร้างห้องเรียนทั่วประเทศให้เต็มไปด้วยพลังแห่งความอยากรู้อยากเห็น
ครูผู้สอนเกิดแรงบันดาลใจ จนสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ไปสู่ผู้เรียน
ด้วยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างครู และนักเรียนได้อย่างเต็มที่"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น